วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

บรรจุหลักสูตรพุทธศึกษา

                   คนไทยทุกคนล้วนมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ในความเหมือนคือ เป็นชาติไทยเหมือนกัน มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน  ก็มีความต่าง คือ ศาสนา ศาสนาเป็นลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์ที่มีหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปให้ยึดถือ ทุกศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ดังนั้นการเลือกนับถือศาสนาจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งการที่บุคคลได้ปฏิบัติตามหลักธรรมของแต่ละศาสนา และนำหลักธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันจะก่อให้เกิดความสงบสุข และสันติทั้งต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ 
                   ประเทศไทยมีคนหลากหลายเชื้อชาติ ความหลากหลายของเชื้อชาติ จึงทำให้เกิดความต่างในการนับถือศาสนา ซึ่งศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่คนไทยนับถือมากที่สุด รองลงมาเป็นศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์  ไม่ว่าศาสนาใดก็ตามล้วนมีหลักธรรมที่สอนให้คนทุกคนเป็นคนดี ประพฤติดี ละเว้นความชั่ว ซึ่งศาสนาจะเป็นสื่อกลางที่หล่อหลอมจิตใจ ความรู้สึก นึกคิดของบุคคลนั้นๆ โดยต้องได้รับการปลูกฝัง บ่มเพาะตั้งแต่วัยเยาว์เป็นต้นมา
                   จากการติดตามฟังข่าวสารบ้านเมือง ล่าสุดในวันที่ 27 สิงหาคม 2556  มีประเด็นข่าวที่น่าสนใจ น่าติดตามเกี่ยวกับการศึกษาไทยและพระพุทธศาสนา นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนาได้ประชุมหารือให้บรรจุหลักสูตรคุณธรรม จริยธรรมในสถานศึกษา โดยกำหนดให้เป็นวิชาเลือก เป็นวิชาพระพุทธศาสนาที่เน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ภาคทฤษฎีจะเกี่ยวกับการเรียนรู้พุทธประวัติ ทฤษฎีการปฏิบัติในพระพุทธศาสนา หลักคำสอนต่างๆ   ส่วนภาคปฏิบัติจะเกี่ยวกับการปฏิบัติ ให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติจริง สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตได้  รวมทั้งควรมีหลักสูตรพุทธศึกษาในสถานศึกษาให้ชัดเจน จัดแยกพุทธศึกษาออกมาจากวิชาสังคมศึกษา อยู่ในหลักสูตรแกนกลาง เป็นวิชาบังคับที่ผู้เรียนจะต้องเรียน เนื่องจากในปีการศึกษาที่ผ่านมา วิชาพระพุทธศาสนาเป็นเพียงแค่วิชาเลือก ผู้เรียนเลือก จะเรียนหรือไม่เลือกเรียนก็ได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนห่างเหินศาสนาพุทธ และต้องจัดบุคลากร หรือครูที่มีความรู้ด้านพระพุทธศาสนาจริงๆ มาสอน ถ้าเป็นไปได้จะต้องจัดให้ครูพระสอนศีลธรรมเข้าไปมีบทบาทในการเรียนการสอน เพื่อเป็นการดำรงไว้ และเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง  นอกจากนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีความเห็นว่าสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ สำหรับผู้เรียนที่ผ่านการเรียนธรรมศึกษามาแล้ว โดยธรรมศึกษา คือ การเรียนประโยคนักธรรมสำหรับฆราวาส หรือการเรียนเกี่ยวกับหลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า ประวัติของพระพุทธเจ้า วินัยของฆราวาส หลักปฏิบัติของฆราวาส ตลอดจนศาสนพิธีต่างๆ หลักสูตรการเรียนธรรมศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นธรรมศึกษาตรี ประกอบด้วย 1.วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมตรี 2. วิชาธรรมวิภาค 3. วิชาพุทธประวัติ 4. วิชาวินัย (เบญจศีล เบญจธรรม)    ชั้นธรรมศึกษาโท ประกอบด้วย 1. วิชาเรียงความกระทู้ธรรมโท 2. วิชาธรรมวิภาค 3. วิชาอนุพุทธประวัติ 4. วิชาวินัย (อุโบสถศีล)  ชั้นธรรมศึกษาเอก ประกอบด้วย 1. วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรมเอก 2. วิชาธรรมวิจารณ์ 3. วิชาพุทธานุพุทธประวัติ 4. วิชาวินัย (กรรมบถ)   เมื่อผู้เรียนสอบผ่านธรรมศึกษาชั้นใดชั้นหนึ่ง สามารถนำมาเทียบโอนเป็นหน่วยกิตในวิชาเลือกในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่ง  และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนสนใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามากขึ้น 
                 ดังนั้นในการนำหลักสูตรพุทธศึกษาเข้ามาบรรจุลงในหลักสูตรการศึกษาไทย จึงเป็นเรื่องดี  ที่จะยกระดับอารมณ์และความรู้สึกของผู้เรียนให้สูงขึ้น ให้ยึดมั่นในหลักคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม  ที่จะเป็นแนวทางให้ผู้เรียนนำไปสู่การปฏิบัติ  นำไปใช้ในชีวิตจริง สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น