วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำอย่างไรให้นักเรียนเกิดความรักในการเรียนคณิตศาสตร์


                 เมื่อข้าพเจ้าเดินผ่านห้องเรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ มักจะพบกับภาพนี้เสมอๆ “ภาพนักเรียนที่พากันนั่งนิ่ง ตัวตรง พร้อมกับสมุดบันทึกและหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ สายตาจดจ้องไปหน้ากระดาน ไม่พูด ไม่ซักถาม กับครูผู้สอนที่ยืนถือชอล์ก ทำหน้าเข้ม และมีน้ำเสียงที่ดุทำไม ทำไม ทำไม...นับตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าเรียนในระดับประถมศึกษาจนถึงปัจจุบันนี้ ผ่านมา 25ปีแล้ว ภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากระบบการศึกษาไทยเสียที
                   มีคำถามหนึ่ง ใครชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์บ้างให้ยกมือขึ้น  นักเรียนส่วนใหญ่ตอบเป็นเสียงเดียวกัน   และครูผู้สอนคณิตศาสตร์จะทราบคำตอบนี้ดี หัวใจครูแทบสลาย เมื่อไม่มีนักเรียนคนใดยกมือ ซึ่งคำตอบของนักเรียนเหล่านี้ ครูไม่ควรเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ หรือเรื่องธรรมดา ครูควรนำมาคิด ไตร่ตรอง หาเหตุผล และรีบหาวิธีการแก้ไขกับปัญหานี้ ทำอย่างไรให้นักเรียนเกิดความรักในการเรียนคณิตศาสตร์
                   จากปัญหา ครูต้องกลับมาย้อนคิดว่าทำไมนักเรียนจึงไม่ชอบ ไม่รักที่จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ถ้าพิจารณาโดยละเอียด อาจมีหลายองค์ประกอบที่ทำให้นักเรียนเกิดความไม่ชอบ ได้แก่ 1. ธรรมชาติของวิชาคณิตศาสตร์ ในทั่วไปแล้ววิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เป็นนามธรรม เกี่ยวกับสัญลักษณ์และจำนวน อาจทำให้นักเรียนคิดหรือจินตนาการภาพไม่ออก 2. ครูผู้สอน มีภาพลักษณ์ หรือบุคลิกประจำตัว คือ ต้องมีใบหน้าที่เข้มงวด เครียด  มีแววตาและน้ำเสียงที่ดุ  แต่งตัวเชย เจ้าระเบียบ ดูสูงอายุ  ส่วนในด้านการสอน สอนไปบ่นไป สอนไม่เข้าใจ ไม่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างนักเรียน สอนโดยอธิบายตามตัวอย่างในหนังสือ แล้วให้นักเรียนนั่งทำแบบฝึกหัดตามตัวอย่าง ห้ามพูดคุย ห้ามซักถามระหว่างเพื่อนนักเรียน ทำให้นักเรียนขาดการปฏิสัมพันธ์ เน้นการให้การบ้านมากๆ  สอนนามธรรมเป็นนามธรรม  สอนเรื่องยากให้ดูยากเหมือนเดิม  ซึ่งเพิ่มความสับสนวุ่นวายในการเรียนรู้ของนักเรียน  สอนโดยใช้วิธีการสอนแบบเดิมๆ ไม่พัฒนา ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย ซึ่งครูส่วนมากจะสอนด้วยวิธี Chalk & Talk   ขาดการใช้สื่อ หรือนวัตกรรมการสอนที่จะช่วยในการอธิบายเพิ่มเติม  ครูผู้สอนไม่ได้จบการศึกษาตรงตามเอกวิชาคณิตศาสตร์ จึงขาดความแม่นยำในเนื้อหาคณิตศาสตร์ ขาดการจัดลำดับเรื่องในการสอน  สอนโดยขาดการวางพื้นฐานจากเรื่องง่ายไปสู่เรื่องที่ยาก ขาดการสอนที่เน้นทักษะการเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์กับโจทย์ปัญหาในชีวิตประจำวัน  หรือขาดการสอนที่เน้นการประยุกต์ความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน  3. นักเรียน นักเรียนมีความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อวิชาคณิตศาสตร์ ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ในขั้นพื้นฐาน เมื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้นจึงไม่สามารถนำความรู้พื้นฐานไปต่อยอดได้ ทำให้เกิดความกลัววิชาคณิตศาสตร์  ขาดทักษะพื้นฐานในการคิดคำนวณ เช่น บวก ลบ คูณ หรือหารจำนวนไม่คล่องแคล่ว ขาดความรอบคอบ ขาดความแม่นยำในการคิด  เมื่อนำมาใช้คิดคำนวณจึงหาคำตอบได้ผิดพลาด   และเรียนเพื่อใช้ในการสอบเท่านั้น โดยไม่เห็นคุณค่าของวิชาคณิตศาสตร์กับชีวิตประจำวัน
                    ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติของวิชาคณิตศาสตร์  ครูผู้สอน  และนักเรียน ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เป็นสาเหตุ หรือเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักเรียนไม่ชอบ ไม่รักที่จะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ความไม่ชอบของนักเรียน เมื่อได้รับการสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์   ซึ่งเจตคติเกิดจากการเรียนรู้ของบุคคล ไม่ได้เป็นสิ่งมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด จะเกิดความชอบหรือไม่ชอบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งในภายหลัง เมื่อตนได้มีประสบการณ์ในสิ่งนั้นๆ แล้ว  ใน 3 องค์ประกอบที่กล่าวไปนั้น ส่วนที่ครูผู้สอนสามารถแก้ไขได้เป็นอันดับที่ 1 คือ ตัวครูผู้สอนเอง เมื่อครูทราบถึงสาเหตุ ควรรีบปรับปรุง เปลี่ยนแปลงทั้งภาพลักษณ์ เปลี่ยนความเก่าแก่ ความโบราณในการแต่งตัว ให้ดูทันสมัยพร้อมกับหน้าตาและใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ  บุคลิกภาพที่เป็นมิตร ไม่ขี้บ่น ไม่จู้จี้  ใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมกับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ เปิดใจเรียนรู้ นำวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ สนุกสนานมาใช้สอนทั้งกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมคู่ หรือกิจกรรมรายบุคคล และสอนคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งที่ง่ายต่อการเข้าใจ
                     ดังนั้นเมื่อครูมีความพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง ครูก็สามารถเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเจตคติของนักเรียนได้พยายามลบสิ่งที่นักเรียนไม่ชอบในวิชาคณิตศาสตร์ออกจากใจและความรู้สึกของเขา จนกลายเป็นความชื่นชอบในวิชาคณิตศาสตร์  ทำให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ สิ่งนี้ถือว่านักเรียนเกิดความรักที่จะเรียนรู้ในคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต“หากครูจูงใจให้นักเรียนเกิดความรักในการเรียนคณิตศาสตร์แล้ว แทนที่นักเรียนจะเข้าเรียนด้วยความเบื่อหน่าย นักเรียนก็พร้อมที่จะรับ หรือเรียนรู้โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าคณิตศาสตร์จะมีเนื้อหายากเพียงใด เพราะนักเรียนตกหลุมรักวิชาคณิตศาสตร์แล้ว  











 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น