ในสัปดาห์นี้มีเหตุการณ์หนึ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจมากที่สุด เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าจดจำ “หลังจากจบการเรียนการสอนในวิชากลยุทธการพัฒนาหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ นักศึกษาปริญญาเอกทุกคน สาขาหลักสูตรและการสอน กลุ่มหลักสูตรและการนิเทศ และกลุ่มการสอนภาษาอังกฤษ นั่งลงบนพื้น แล้วนำพวงมาลัยมากราบขอพรจากท่านอาจารย์ เนื่องในวันไหว้ครู ข้าพเจ้าสังเกตเห็น ใบหน้าของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเหล่านักศึกษาที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจ ความหวัง ความมุ่งมั่นที่จะศึกษาในระดับปริญญาเอกให้จบในเร็ววัน” ซึ่งอาจารย์แต่ละท่าน ไม่ว่าจะเป็น อ.ดร.ประเสริฐ มงคล, รศ.ดร.วิชัย วงษ์ใหญ่ และ ผศ.ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ ล้วนเป็น Idol ของพวกเรา และเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของวงการศึกษาไทย
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทย การบูชาครู เป็นการแสดงความเคารพต่อครู ผู้ประสิทธิ์ ประสาทวิชาความรู้ ทำให้ข้าพเจ้ากลับมาคิดถึงเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยๆ ที่เกิดในสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมเมือง สังคมของเทคโนโลยี สังคมของการแข่งขัน หรือสังคมของการเร่งรีบ กับภาพเหตุการณ์ลักษณะนี้ ในอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ข้างหน้า ภาพนี้จะยังคงอยู่กับคนไทยอยู่หรือไม่
จะคงอยู่หรือไม่นั้น....ขึ้นอยู่กับการส่งต่อของคน
รุ่นต่อรุ่น และสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับเด็กไทยที่เติบโตมาพร้อมกับสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทำให้เด็กๆ ต้องปรับตัว ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความเร่งรีบ รวดเร็ว ซึ่งเด็กแสดงพฤติกรรมการทำความเคารพด้วยการจับมือ
ด้วยการผงกหัวหรือพยักหน้าต้อนรับกัน มีกิริยามารยาทที่ไม่สุภาพ ลุกลี้ ลุกลน โผงผาง ไม่ว่าจะเป็นการยืน
การเดิน การนั่ง การเข้าหาผู้ใหญ่ การรับของและการส่งของต่อผู้ใหญ่ ทั้งการแสดงท่าทาง
คำพูด คำจา ดูไม่น่ารัก จึงเกิดคำถามว่า
“ความเป็นไทย มารยาทไทยหายไปไหน”
ดังนั้นครูและผู้ปกครองต้องเป็นผู้ที่มีบทบาทคอยปลูกฝัง หล่อหลอมความเป็นไทยให้กับเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อย
เพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีงามจากรุ่นสู่ร่น
สิ่งที่แสดงถึงความเป็นไทย
และเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตา คือ มารยาทไทย ซึ่งมารยาทไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งควบคู่กับสังคมไทยตลอดมา โดยมารยาทไทย คือ กิริยา วาจาต่างๆ เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การนอนการรับของ ส่งของ การทำความเคารพ การแสดงกิริยาอาการ การรับประทานอาหาร
การให้และรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้คำพูด การฟัง การใช้เครื่องมือสื่อสาร
รวมทั้งการประพฤติปฏิบัติในพิธีการต่างๆที่สุภาพเรียบร้อยที่บุคคลพึงปฏิบัติในสังคมโดยมีระเบียบแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ
ตามความเป็นไทย
สำหรับพื้นฐานมารยาทไทยหลักๆ
ที่เด็กไทยทุกคนต้องมี และปฏิบัติได้ถูกต้อง คือ การไหว้ “ไปลา มาไหว้” เป็นคำพูดที่ติดปาก เป็นมารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทาย
เวลาพบปะกันหรือลาจากกัน “การไหว้
พร้อมกับกล่าวคำว่า สวัสดี” เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ
และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน “การไหว้
พร้อมกับกล่าวคำว่า ขอบคุณ” เป็นการแสดงถึงมิตรภาพ มิตรไมตรี “การไหว้ พร้อมกับกล่าวคำว่า ขอโทษ” เป็นการแสดงถึงการขออภัยกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความอ่อนน้อม
เพิ่มความน่ารักในตัวผู้พูด คือ การพูดจามีหางเสียง “ผู้ชายลงท้ายด้วยครับ”
ส่วน “ผู้หญิงลงท้ายด้วยค่ะ”
ดังนั้นผู้ที่จะเป็นกระจกสะท้อนมารยาทไทยให้เกิดกับเด็กไทย
Generation Z ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด คือ ผู้ปกครองและครูต้องปฏิบัติตัวเป็นผู้มีมารยาทไทยให้เป็นแบบ อย่าง อีกทั้งเป็นการช่วยสืบสานวัฒนธรรมไทยที่ดีงามที่สืบทอดและปฏิบัติกันมาแต่โบราณให้คงอยู่คู่กับไทยตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น