ความสุขเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนแสวงหาและอยากมี
ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยใดก็ตาม นับตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งมนุษย์แต่ละช่วงวัยมีความสุขที่แตกต่างกันไป
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นครูจึงอยากรู้ อยากค้นหาความสุขของผู้เรียน ในประเด็นดังนี้
สิ่งใดที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข ข้าพเจ้าได้ค้นหาคำตอบจากแหล่งข้อมูล
หนังสือที่หลากหลาย พบหนังสือเล่มหนึ่งน่าสนใจ ได้แก่ “การเรียนรู้อย่างมีความสุข : สารเคมีในสมองกับความสุขของการเรียนรู้” โดย รศ.พญ.ศันสนีย์
ฉัตรคุปต์ และคณะ สามารถนำมาตอบประเด็นที่ข้าพเจ้าสนใจได้
ในหนังสือเล่มนี้ทำให้ข้าพเจ้าค้นพบปัจจัยที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้ โดยความสุขของผู้เรียนจะขึ้นอยู่กับเรื่องราวและประสบการณ์ที่มากระทบความรู้สึก
ซึ่งการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุขต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญหลายประการ
ได้แก่ 1. สุขภาพร่างกายและความปลอดภัยจากยาเสพติด
ผู้เรียนต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่เสพสิ่งเสพติด
ซึ่งสิ่งเสพติดเป็นตัวทำลายระบบการทำงานของสมอง จะส่งกระทบต่อสภาพจิตใจและสติปัญญา
เป็นตัวทำลายสมองอย่างถาวร โดยครูและผู้ปกครองเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดูแลป้องกันการติดยาของผู้เรียน
ดังนั้นครู พ่อแม่และผู้ปกครองจะต้องให้ความรัก ความเข้าใจ
และความเอื้ออาทรต่อผู้เรียน 2. ภาวะทางจิตใจ
ความรู้สึกนึกคิด อารมณ์
การที่ผู้เรียนมีความสุขแสดงว่าผู้เรียนจะต้องไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้เรียน พ่อแม่
ครูและผู้ปกครองต้องเป็นบุคคลที่ทำให้เด็กเกิดความสนใจ
เกิดความรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังเรียนรู้เป็นสิ่งที่มีคุณค่า
เรียนแล้วรู้ว่าจะนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อะไร
ซึ่งครูเป็นบุคคลที่สำคัญที่จะคอยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ
ส่งเสริมให้คิดบวก มีอิสระทางความคิด
ไม่จำเป็นต้องมีอิสระทางร่างกายหรือมีอิสระทางพฤติกรรม
เรียนรู้อย่างมีระเบียบวินัยในชั้นเรียน อีกทั้ง EQ เป็นสิ่งสำคัญทำให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
3. กระบวนการศึกษาโดยเฉพาะการประเมินผล
ผู้เรียนต้องได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนอย่างเต็มตามศักยภาพและความสามารถมากกว่าจะมาประเมินผลแล้วนำผลมาเปรียบเทียบจัดอันดับผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกไม่ดี
ไม่เป็นการพัฒนาให้เกิดความสุขในตัวเองและในชั้นเรียน 4. ครูและผู้บริหารโรงเรียน
ครูเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้เรียนสนใจเรียนในวิชานั้นๆ
เพราะครู รักครู ผู้เรียนอยากทำตัวเป็นคนดี อยากทำทุกอย่างเพื่อที่ครูจะได้ชื่นชม
ซึ่งครูคนที่ผู้เรียนรักไม่ใช่ครูที่ตามใจ แต่เป็นครูที่ทราบว่าเวลาใด
ควรจะเข้มงวด เวลาใดควรจะอ่อนโยน
และที่สำคัญครูต้องทำให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของตนเองเสมอ ผู้บริหารโรงเรียนจะเป็นผู้ให้การสนับสนุน
ให้กำลังใจ และอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุผลสำเร็จ
ให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้ 5.
พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเข้าใจศักยภาพของผู้เรียนและส่งเสริมตามความสามารถที่ผู้เรียนมี
ไม่ควรคาดหวังและเคี่ยวเข็ญให้ผู้เรียนทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากที่จะทำ
เนื่องจากเรื่องราวที่มากระทบความรู้สึก
ถ้าต้องการให้จดจำได้นาน ควรเป็นเรื่องราวที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุข
ไม่เกิดความเบื่อหน่าย ดังนั้นในกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนมีความสุข
ต้องมีความสนุกสนาน สร้างความประทับใจผู้เรียนมีเรื่องอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
เน้นการลงมือกระทำ ทำให้ผู้เรียนจำได้
สนุกที่จะเรียนและมีความคิดในทางบวกต่อสิ่งที่กำลังเรียนรู้
เป็นการสอนแบบเรื่องราวหรือบูรณการที่เชื่อมโยงเรื่องราวหรือแนวคิด
ให้สมองได้เห็นภาพการเชื่อมโยงของสิ่งที่เรียนรู้ในห้องเรียนกับความจริงในชีวิต
จะให้ผู้เรียนจำได้และสนุกที่จะได้เรียนรู้มากขึ้น กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจและเกิดความรักในสิ่งที่จะเรียนรู้
เมื่อผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
ย่อมเป็นแรงผลักดัน หรือแรงกระตุ้นให้ผู้เรียนมีแรงกาย แรงใจที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดี เพื่อให้บุคคลที่อยู่รอบข้าง และสังคมรอบตัวมีความสุขไปพร้อมกัน ถ้าในระบบการศึกษาไทยสามารถจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
และมีความสุขในการเรียนรู้แล้วการศึกษาไทยจะประสบผลสำเร็จแน่นอน
เพราะผู้เรียนจะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เป็นสมาชิกที่มีประสิทธิภาพ
ประพฤติ ปฏิบัติในสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และพร้อมที่จะถ่ายทอดความสุขส่งต่อให้กับรุ่นลูกหลานสืบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น